จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บทคัดย่อ

การศึกษาไทย..ในยุคไฟไหม้ฟาง

ปี พ.ศ.2551 นี้ นับว่าเป็นปีที่ 9 ของการประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ โดยตลอด 9 ปีที่ผ่านมา รัฐได้ใช้งบประมาณเพื่อการปฏิรูปการศึกษาไปจำนวนมหาศาล หากแต่การพัฒนา ยังไม่เห็นเด่นชัดเท่าที่ควร โดยเฉพาะผลที่เกิดขึ้นกับตัวผู้เรียน ซึ่งยังไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติ ที่ต้องการให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง เป็นนักอ่าน นักคิด เป็นคนดี มีความสุข และเก่ง
เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น เมื่อเราหันกลับมาดูงบประมาณที่รัฐได้ทุ่มลงไปเพื่อการศึกษานั้น เราจะพบว่า งบประมาณส่วนใหญ่ เป็นงบประมาณประจำ และงบเงินเดือน และผลตอบแทนบุคลากร จึงเกิดปัญหาความไม่พอเพียงในงบประมาณเพื่อใช้จัดการศึกษาอื่น ๆ ซึ่งทางหน่วยงานที่จัดการศึกษา ก็ได้พยายามแก้ปัญหาโดยการจัดลำดับความสำคัญของการจัดการศึกษาตามยุทธศาสตร์ที่วางไว้ แต่ก็ยังแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้ เหตุเพราะยุทธศาสตร์และแนวทางการจัดการศึกษานั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงฝ่ายกำหนดนโยบาย โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละคนก็มียุทธศาสตร์และแนวทางการบริหารที่ต่างกัน บางคนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ขณะที่อีกคนให้ความสำคัญกับอีกเรื่องหนึ่ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าในยุคของตนมีผลงานเด่น และมีจุดขายเป็นของตนเอง ซึ่งส่งผลต่อผู้ปฏิบัติงานโดยตรง เมื่อผู้ปฏิบัติงานต้องรับนโยบายมาจากฝ่ายบริหาร บางครั้ง ทำให้ต้องละทิ้งสิ่งที่ตนเองกำลังพัฒนา ทั้ง ๆ ที่บางครั้งยังไปได้ด้วยดี และต้องมาเริ่มต้นพัฒนางานตามนโยบายใหม่ ทำให้เกิดความไม่ต่อเนื่องในการพัฒนา ซึ่งมีฝ่ายปฏิบัติงานหลายคน ได้ให้คำจำกัดความของนโยบายที่รับมานี้ว่า นโยบายไฟไหม้ฟางดังนั้น สิ่งสำคัญที่ฝ่ายปฏิบัติงานต้องการมากที่สุด ก็คือ นโยบายการพัฒนาที่ยั่งยืนและถาวร และการพัฒนาตนเองของครู เพราะสภาพในปัจจุบัน ครูส่วนใหญ่ ต้องทำงานเพื่อสนองนโยบายของฝ่ายบริหาร ทั้ง ๆ ที่งานเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผู้เรียนเลย แม้แต่ส่งผลต่อการพัฒนาตนเอง ก็ไม่มี เช่น งานธุรการ งานรายงานข้อมูลข่าวสาร และงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับการสั่งการ หรือร้องขอมา บางครั้ง ครูต้องทำหลายงานในเวลาเดียวกัน แต่ไม่ต่อเนื่อง ผลที่ออกมายังไม่ส่งผลถึงเด็ก ถึงครู ส่งผลให้สัมฤทธิผลทางการศึกษาของเด็กไทยนอกจากจะไม่ดีขึ้นแล้ว ยังมีแนวโน้มลดลงไปอีก เป็นสิ่งที่ยืนยันถึงความล้มเหลวของการปฏิรูปการศึกษา ภายใต้นโยบาย ไฟไหม้ฟางนี้ได้เป็นอย่างดี

ดังนั้น สิ่งที่ผู้เขียนอยากจะเห็น ในการจัดการศึกษาในยุคปัจจุบันก็คือ การจัดงบประมาณตามลำดับความสำคัญของยุทธศาสตร์ และการทุ่มเทงบประมาณ บุคลากรและทรัพยากรทุกอย่างลงไปสู่ผู้เรียนอย่างเต็มที่ ที่สำคัญที่สุดได้แก่ การมีนโยบายการพัฒนาที่ต่อเนื่อง เนื่องจากอนาคตของเด็กไทย ไม่ใช่ของเล่น ที่ใครจะมาทดลอง หรือสั่งการ เพียงเพื่อสนองความต้องการของตนเอง เพราะอนาคตของเด็กไทย คืออนาคตของประเทศชาติ นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น